Header

mark

‘Teleradiology’ ภาพรังสีเดินทางได้ เทคโนโลยีที่พาความหวังไปถึงทุกที่

05 มิถุนายน 2568

avatar เขียนโดย : ธัญชณัท เอกจิรวรรธ

blog

เมื่อเทคโนโลยีไม่ใช่เพียงเครื่องมือ แต่กลายเป็นแรงสนับสนุนสำคัญในการดูแลชีวิตผู้คน เครือโรงพยาบาลพริ้นซ์ (PRINC HOSPITAL GROUP) จึงเดินหน้าส่งเสริมให้บริการทางการแพทย์เข้าถึงผู้คนอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองรองและห่างไกล ที่ยังขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทางบางสาขา หนึ่งในนั้นคือรังสีแพทย์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการวินิจฉัยโรค และจำเป็นต้องให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงทรัพยากรทางการแพทย์จึงเป็นอีกก้าวที่ช่วยให้ระบบสุขภาพดูแลผู้คนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แม้หลายจังหวัดจะมีโรงพยาบาลในเครืออยู่แล้ว แต่การให้บริการด้านรังสีวิทยานอกเวลาทำการยังคงเป็นความท้าทาย ทั้งในแง่จำนวนบุคลากรเฉพาะทางที่มีจำกัด และข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานของบางพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ โรงพยาบาลพริ้นซ์ (PRINC HOSPITAL GROUP) จึงพัฒนาระบบ Teleradiology ขึ้นเพื่อเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่แข็งแกร่ง ร่วมกับทีมรังสีแพทย์จากส่วนกลาง ส่งผลให้ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการอ่านผลเอกซเรย์หรือ CT Scan รวมถึง MRI ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากการรับบริการในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมือง เพิ่มโอกาสในการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างทันท่วงที

ก้าวผ่านความท้าทาย เพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน

ตั้งแต่เริ่มใช้งานระบบ Teleradiology ในปลายปี 2566 ได้เผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งการจัดทีมรังสีแพทย์ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันมีแพทย์มากกว่า 10–15 ท่านคอยสนับสนุน การออกแบบเทคโนโลยีให้ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ทุกโรงพยาบาลในเครือ ตลอดจนการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย อีกทั้งการกำหนดค่าตอบแทนที่เหมาะสม โปร่งใส และยุติธรรม เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาความมุ่งมั่นและกำลังใจของบุคลากรทางการแพทย์อย่างยั่งยืนในระยะยาว

เบื้องหลังความสำเร็จของระบบ Teleradiology คือการวางแผน ทดลอง และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบมีความเสถียร ใช้งานง่าย และปลอดภัยตามหลัก PDPA หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แม้ในอดีตจะมีการทดลองใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยวิเคราะห์ภาพรังสี แต่ด้วยปริมาณเคสที่ยังไม่มากและความซับซ้อนของระบบ AI ที่มักแสดงผลแจ้งเตือนมากเกินจำเป็น จึงยังไม่เหมาะกับบริบทของโรงพยาบาลฯ ณ เวลานี้

“เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการยกระดับคุณภาพการดูแลรักษา แต่สิ่งสำคัญคือต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริบทและความต้องการจริงขององค์กร ไม่ใช่นำมาใช้เพียงเพื่อภาพลักษณ์เท่านั้น”  นายแพทย์อธิวัฒน์ น้อยประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล และผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน ผู้ริเริ่มโครงการ Teleradiology

ต่อยอดสู่บริการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านอื่น ๆ

ความสำเร็จของระบบ Teleradiology ในการเชื่อมโยงบริการรังสีวิทยาให้ครอบคลุมและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เครือโรงพยาบาลพริ้นซ์ (PRINC HOSPITAL GROUP) ขยายขอบเขตการให้บริการไปยังแพทย์เฉพาะทางสาขาอื่น ๆ โดยเริ่มจากการให้คำปรึกษาด้านประสาทวิทยา ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในกรณีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ที่ต้องการการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วน เช่นในกรณีของโรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี และโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ ที่สามารถเชื่อมต่อกับแพทย์ประสาทวิทยาจากโรงพยาบาลเครือข่ายเพื่อขอคำปรึกษาผ่านระบบทางไกล วางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับยาทันเวลาและสามารถฟื้นตัวใกล้เคียงปกติ แม้ในพื้นที่ที่ยังไม่มีแพทย์เฉพาะทางประจำ
เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยผ่านระบบทางไกลเป็นไปอย่างราบรื่นและครอบคลุมยิ่งขึ้น ยังเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีให้ใช้งานได้สะดวกและเป็นมิตรมากขึ้น ลดความซับซ้อนของกระบวนการให้เหลือเพียงไม่กี่ขั้นตอน เช่น การส่งภาพจากพื้นที่ปฏิบัติงานเข้าสู่ระบบได้ด้วย “One Click” เพื่อให้แพทย์เฉพาะทางสามารถรับภาพ วินิจฉัย และส่งกลับคำแนะนำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ทั้งนี้ ยังมีความหวังว่าในอนาคต ระบบสุขภาพของไทยจะสามารถเสริมศักยภาพบุคลากรในสาขาต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น การพัฒนานักอัลตราซาวนด์ผ่านการอบรมให้สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งแม้จะไม่ใช่แพทย์ แต่สามารถถ่ายภาพอัลตราซาวนด์และส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ Teleradiology เพื่อให้แพทย์รังสีที่อยู่ส่วนกลางเป็นผู้รับช่วงต่อในการอ่านผลและให้คำวินิจฉัย ช่วยลดภาระของแพทย์ในพื้นที่ พร้อมรักษาคุณภาพของการวินิจฉัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งเครือโรงพยาบาล การดูแลผู้ป่วยในชุมชนจึงสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

พลังของระบบ และหัวใจของคน

ระบบ Teleradiology ถือเป็นผลลัพธ์จากความร่วมมืออย่างเป็นระบบภายในองค์กรที่หลอมรวมศักยภาพของทีมแพทย์เฉพาะทางเข้ากับการบริหารจัดการอย่างมีกลยุทธ์ ช่วยให้โรงพยาบาลในเครือสามารถเข้าถึงบริการอ่านผลภาพรังสีจากทีมรังสีแพทย์เฉพาะทางได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลดภาระของโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกลที่อาจไม่มีแพทย์ประจำอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละแห่ง รวมทั้งเป็นการเพิ่มคุณภาพการรักษาและเพิ่มความปลอดภัยของผู้รับบริการ

ระบบนี้ยังช่วยเสริมความมั่นใจให้แก่แพทย์ในพื้นที่ ด้วยการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาในทุกช่วงเวลา ลดความคลาดเคลื่อนในการวินิจฉัย โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินยามค่ำคืน พร้อมกันนี้ยังช่วยดูแลสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของทีมแพทย์ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ระยะไกลที่ยั่งยืน สอดคล้องกับปณิธานของเครือโรงพยาบาลพริ้นซ์ (PRINC HOSPITAL GROUP) ที่มุ่งสร้างคนที่มีจิตใจของความเป็นผู้ให้ เพื่อช่วยเหลือคน ชุมชน และสังคม

“ผมเชื่อว่าระบบนี้จะไม่เพียงช่วยลดต้นทุนให้กับโรงพยาบาล แต่ยังยกระดับคุณภาพชีวิตของทั้งผู้รับบริการและแพทย์ผู้ให้บริการ เราอยากเห็นระบบที่แพทย์ไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังสามารถส่งต่อความมั่นใจ ความปลอดภัยให้กับคนไข้ได้อย่างต่อเนื่อง” — นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล รองประธานคณะกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล

นายแพทย์กรานต์ เจียรคุปต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์/รังสีแพทย์

บทความสุขภาพอื่น ๆ

บทความทางการแพทย์

อาหารต้องห้ามที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

29 ตุลาคม 2566

อาหารต้องห้ามที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

การดูแลสุขภาพในระหว่างการตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ต้องใส่ใจอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรก เนื่องจากอาหารที่คุณแม่เลือกจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของทารกในครรภ์ ดังนั้นมีอาหารบางอย่างที่ไม่แนะนำให้คุณแม่รับประทานเพื่อปกป้องสุขภาพของทารกและการตั้งครรภ์

บทความทางการแพทย์

เฝ้าระวังการระบาดของไวรัส hMPV แนะวิธีป้องกันตัว
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เฝ้าระวังการระบาดของไวรัส hMPV แนะวิธีป้องกันตัว

โรคติดเชื้อไวรัส hMPV (Human Metapneumovirus) ซึ่งทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจนั้น พบได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว และพบผู้ป่วยสูงสุดในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเชื้อ hMPV สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายจากการไอหรือจาม การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ และสัมผัสสารคัดหลั่ง

ข่าวสุขภาพ

กรมการแพทย์ เตือน สัญญาณโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หากพบ ควรพบแพทย์ทันที อันตรายถึงชีวิต

ปัจจุบัน คนไทยเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันมากที่สุด เป็นอันดับ 3 รองจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง โดยจากสถิติพบว่า มีคนไทยป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้น 21,700 ราย/ปี และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ