Header

mark

RSV โรคยอดฮิตในเด็กเล็กที่ 'ผู้สูงอายุ' ไม่ควรมองข้าม

12 สิงหาคม 2567

RSV คืออะไร? 

RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง ซึ่งมักพบในเด็กเล็กและระบาดในฤดูฝนและฤดูหนาว รูปแบบการระบาดอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ พฤติกรรมของมนุษย์ และการกลายพันธุ์ของไวรัส โรค RSV ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงในเด็ก แต่ยังเป็นโรคที่ผู้สูงอายุควรระวังด้วย

พญ.ปาริชาติ เมืองไทย แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ อธิบายว่า RSV มักพบในเด็ก แต่ผู้สูงอายุก็มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันที่ลดลงตามอายุทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว นอกจากนี้ โรคประจำตัวเรื้อรังยังเป็นปัจจัยที่ทำให้การติดเชื้อไวรัสรุนแรงขึ้น อาการของ RSV ในผู้สูงอายุอาจคล้ายหวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ และน้ำมูกไหล แต่ในบางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก หอบเหนื่อย และปอดอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหรือเสียชีวิตได้ ดังนั้น การเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจึงจำเป็น โดยการวินิจฉัยสามารถทำได้จากการตรวจร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเสมหะหรือเลือด การตรวจพบและจัดการอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้

นพ.ธนา ปฏิมารัตนานันท์ อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ กล่าวเสริมว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส RSV นั้นมีหลายประการ เช่น การที่อายุมากขึ้นทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง รวมถึงโรคประจำตัวเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคปอด โรคหัวใจ เบาหวาน โรคไต โรคตับ และโรคเลือด ซึ่งสามารถลดประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันได้ นอกจากนี้ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องยังเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อีกด้วย การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือการอยู่ในสถานที่ที่มีการระบาดของโรคก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ

“ปัจจุบันยังไม่มีตัวยาต้านไวรัส RSV โดยเฉพาะ การรักษาจึงเน้นไปที่การบรรเทาอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก และการดูแลให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนเพียงพอ เช่นเดียวกับกรณีของคุณยายวัย 75 ปีที่มีโรคปอดเรื้อรัง ติดเชื้อ RSV ทำให้หายใจลำบากและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงกรณีของคุณลุงวัย 80 ปีที่มีอาการ RSV รุนแรงจนเกิดภาวะปอดอักเสบและเสียชีวิต การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรหมั่นล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย สวมหน้ากากอนามัย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และฉีดวัคซีนป้องกันโรค RSV” นพ.ธนา กล่าว

วัคซีนป้องกันโรค RSV ในผู้สูงอายุ

การฉีดวัคซีนป้องกันโรค RSV เพียงเข็มเดียวช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันและมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัส RSV ได้อย่างน้อย 2 ปี ควรฉีดสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และสำหรับผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรังสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 50 ปี 

การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ช่วยป้องกันโรค RSV ได้ไหม?

การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่ป้องกันการติดเชื้อ RSV โดยตรง อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ยังมีความสำคัญ เนื่องจากช่วยลดภาวะของระบบทางเดินหายใจและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้ออื่น ๆ 

การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด ควรติดตามข่าวสารจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น กระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรได้

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น บทความนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ของคุณสำหรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: แผนกผู้ป่วยนอก (OPD) อายุรกรรม โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ โทร 045-968-888 (ติดต่อแผนกผู้ป่วยนอก) 
หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://princsisaket.com/

เรียบเรียงโดย : ธัญชณัท เอกจิรวรรธ

ตรวจโดย : นพ.ธนา ปฏิมารัตนานันท์ อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ

บทความสุขภาพอื่น ๆ

ข่าวสุขภาพ

กรมการแพทย์ เตือน สัญญาณโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หากพบ ควรพบแพทย์ทันที อันตรายถึงชีวิต

ปัจจุบัน คนไทยเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันมากที่สุด เป็นอันดับ 3 รองจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง โดยจากสถิติพบว่า มีคนไทยป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้น 21,700 ราย/ปี และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ข่าวสุขภาพ

กรมอนามัย แนะ เริ่มต้นป้องกัน “โรคมะเร็ง” ด้วยตนเอง เพียงปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และตรวจคัดกรอง

โรคมะเร็ง เป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว สาเหตุการเกิดโรคมะเร็งมาจาก “พฤติกรรมการใช้ชีวิต” ที่ไม่เหมาะสม ดังนั้น การเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เป็นอีกหนึ่งวิธีการป้องกันโรคมะเร็งต้วยตนเองที่ดี

บทความทางการแพทย์

โรคความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การเกิดโรคและภาวะต่าง

29 มีนาคม 2567

‘ความดันโลหิตสูง’ ต้นตอโรคร้าย ตรวจวินิจฉัยพบ ต้องรีบรักษาที่ต้นเหตุ

โรคความดันโลหิตสูงนี้ เป็นต้นตอของโรคร้ายมากมาย ที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ เพื่อสร้างความตระหนักในการดูแลสุขภาพ