
กรวยไตอักเสบคืออะไร อาการเป็นยังไงและการรักษาทำอย่างไร
26 มีนาคม 2567

‘กรวยไตอักเสบ’ โรคร้ายที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารรสเค็ม
เมื่อพูดถึงโรคไต หลายคนอาจมีชุดความคิดที่ว่า เกิดจากการรับประทานอาหารรสเค็มจัด อย่างไรก็ตาม กรวยไตอักเสบ เป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยมักถูกตรวจวินิจฉัยพบได้มากกว่าในเพศหญิง โดยวันนี้ เครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จะมาเจาะลึกรายละเอียดของโรคดังกล่าว ให้ทุกคนเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน
กรวยไตอักเสบ คืออะไร ?
กรวยไตอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่กรวยไต สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่:
- กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน: เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณกรวยไต เชื้อที่พบได้บ่อย เช่น อีโคไล ซูโดโมแนส และเคล็บซิลลา เป็นต้น กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน จะมีอาการแสดงที่ชัดเจนและรุนแรง แต่สามารถรักษาหายได้ภายใน 2 - 3 สัปดาห์ มักถูกตรวจวินิจฉัยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
- กรวยไตอักเสบเรื้อรัง: เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณกรวยไต และความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ ไม่มีอาการแสดง แต่สามารถตรวจวินิจฉัยพบเชื้อแบคทีเรีย และเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะได้ โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะมีการอักเสบของกรวยไตเป็นระยะเวลานาน เป็นเหตุให้เซลล์ของไตถูกทำลาย และนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง ในที่สุด

กรวยไตอักเสบ มีอาการอย่างไร ?
- มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ
- เบื่ออาหาร ปวดท้อง ปวดบั้นเอวข้างใดข้างหนึ่ง
- คลื่นไส้ และอาจมีอาเจียนร่วมด้วย
- ปัสสาวะสีขุ่น อาจข้นเป็นหนอง หรือมีเลือดปน
- ปัสสาวะแสบขัด กะปริดกะปรอย

กรวยไตอักเสบ รักษาได้อย่างไร ?
- รับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
- ฉีดยาปฏิชีวนะเจนตามัยซิน เข้าทางหลอดเลือดดำเป็นเวลา 24 - 48 ชั่วโมง ในปริมาณครั้งละ 40 - 80 มิลลิกรัม ทุก ๆ 8 - 12 ชั่วโมง
- เมื่อรักษาหายแล้ว ควรเข้ารับการตรวจปัสสาวะทุก ๆ 3 - 4 เดือน ตามแพทย์นัด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เป็นกรวยไตอักเสบเรื้อรัง เพราะหากเกิดขึ้นแล้ว จะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ภาวะไตวาย และภาวะโลหิตเป็นพิษ ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
กรวยไตอักเสบ ป้องกันได้ เพียงปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- เลี่ยงการอั้นปัสสาวะ
- ดื่มน้ำ 8 - 10 แก้ว/วัน เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย
- ในเพศหญิง หลังทำการอุจจาระควรทำความสะอาดด้านหน้า ก่อนทำความสะอาดทวารหนัก
- ทำความสะอาดอวัยวะเพศ และปัสสาวะทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์
- หากระบบปัสสาวะมีความผิดปกติ เช่น ปัสสาวะขัด สีขุ่น ควรเข้าพบแพทย์ทันที
บทความโดย : พญ. อันธิกา จันทร์ลือชัย ,อายุรแพทย์สาขาอายุรศาสตร์โรคไต, รพ.พริ้นซ์ สกลนคร, ต.ค.66
บทความสุขภาพอื่น ๆ
บทความทางการแพทย์
28 มีนาคม 2567
ไวรัส RSV คืออะไร อาการคล้ายไข้หวัด แต่อาจอันตรายมากกว่า
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV” ที่มักพบในเด็ก โรคชนิดนี้มีอาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัด แต่อาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้มากกว่า โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ถึงขั้นปอดอักเสบและเสียชีวิตได้
บทความทางการแพทย์
22 มีนาคม 2567
“โรคกรดไหลย้อน” อาการและการรักษา อาการแสบร้อนกลางอกที่ควรรีบรักษาก่อนกลายเป็นเรื้อรัง
โรคกรดไหลย้อน เป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร โดยของที่ไหลย้อนส่วนใหญ่จะเป็นกรดในกระเพาะอาหารส่วนน้อยอาจเป็นด่างจากลำไส้เล็ก
ข่าวสุขภาพ
12 สิงหาคม 2567
RSV โรคยอดฮิตในเด็กเล็กที่ 'ผู้สูงอายุ' ไม่ควรมองข้าม
RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง ซึ่งมักพบในเด็กเล็กและระบาดในฤดูฝนและฤดูหนาว รูปแบบการระบาดอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ พฤติกรรมของมนุษย์ และการกลายพันธุ์ของไวรัส โรค RSV ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงในเด็ก แต่ยังเป็นโรคที่ผู้สูงอายุควรระวังด้วย












