Header

mark

‘มะเร็งปอด’ ปัญหาใหญ่ อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษามะเร็ง

28 มีนาคม 2567

avatar เขียนโดย : นพ.เฉลิมพลรัตนอุดมวรรณา, รพ.พิษณุเวช

blog

มะเร็งปอด เป็นอีกหนึ่งโรคที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรไทยทั้งชายและหญิง มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากการสูบบุหรี่ หรือการสูดดมควันบุหรี่มือสอง เนื่องจากการสูบบุหรี่ กลายเป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อผ่อนคลาย และได้รับความนิยมในคนหลายกลุ่ม ทำให้คนเหล่านั้น ไม่ได้ตระหนักถึงความอันตรายที่จะตามมาในอนาคต จากกิจกรรมที่พวกเขาทำทุกวัน โดยวันนี้ เครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จะมาแบ่งปันเนื้อหาสาระดี ๆ เกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากมะเร็งปอด ให้ทุกคนได้ทราบกัน

มะเร็งปอด คืออะไร ?

‘มะเร็งปอด’ เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นกลุ่มก้อนของเซลล์ที่ผิดปกติ ซึ่งมักถูกตรวจวินิจฉัยพบ เมื่อมีขนาดใหญ่ มีจำนวนมาก หรือแพร่กระจายไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแล้ว โดยมะเร็งปอด สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ตามขนาดของเซลล์ ได้แก่:

  • มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก: เซลล์จะเจริญเติบโตและสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่ามะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก เป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว การรักษาโดยมากสามารถทำได้โดยการใช้ยาหรือฉายรังสี
  • มะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก: พบได้บ่อยกว่ามะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก โดยมะเร็งปอดชนิดนี้สามารถแพร่กระจายได้ช้ากว่า และสามารถรักษาให้หายได้โดยการผ่าตัดหากถูกตรวจวินิจฉัยพบตั้งแต่เนิ่น ๆ

มะเร็งปอดคืออะไร

มะเร็งปอด มีสาเหตุมาจากอะไร

ปัจจุบัน เรายังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนที่นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งปอดได้ อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอดได้ เช่น:

  • การสูบบุหรี่: ผู้ที่สูบบุหรี่ มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10 - 30 เท่า เนื่องจากสารในบุหรี่สามารถทำลายเซลล์ปอด ทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์
  • มลภาวะในสิ่งแวดล้อม และสารพิษต่าง ๆ: ควันบุหรี่มือสอง สารหนู รังสี และสารเคมีอื่น ๆ เป็นต้น
  • ช่วงวัย: ความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปอดมากขึ้น
  • คนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นมะเร็งปอด: ผู้ที่มีพ่อแม่เป็นโรคมะเร็งปอด มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอดแม้ไม่ได้สูบบุหรี่

มะเร็งปอด มีอาการแสดงอย่างไร ?

ในระยะเริ่มต้น มะเร็งปอด มักจะไม่แสดงอาการ แต่จะมีอาการที่สังเกตได้เมื่อโรคลุกลามแล้ว ได้แก่:

  • มีอาการไอเรื้อรัง (ไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ) ไอมีเลือดปน
  • หายใจสั้น หรือหายใจมีเสียงหวีด
  • เจ็บบริเวณหน้าอกตลอดเวลา
  • ติดเชื้อในปอดบ่อย ๆ
  • เหนื่อยง่าย หรือรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

มะเร็งปอด สามารถป้องกันได้อย่างไร

มะเร็งปอด สามารถรักษาได้อย่างไร ?

  • การผ่าตัด: เพื่อผ่าเอาก้อนมะเร็งที่ปอดและต่อมน้ำเหลืองที่ช่องอกออกให้หมด เป็นวิธีการที่โดยทั่วไปจะไม่ใช้ในการรักษามะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก
  • การฉายรังสี: เป็นการใช้พลังงานรังสีที่มีความเข้มข้นฉายไปยังตำแหน่งของเซลล์มะเร็งเพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็งนั้น วิธีนี้สามารถใช้เพื่อควบคุมการลุกลามของมะเร็งเฉพาะจุด ใช้เวลาไม่นาน และไม่ทำให้เจ็บปวด แต่อาจมีผลข้างเคียง เช่น ระคายเคืองผิวหนัง หรือมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
  • การใช้ยาภูมิคุ้มกันบำบัด: เป็นวิธีการส่งเสริมให้ภูมิคุ้มกัน ระบบการทำงานของภูมิคุ้มกัน การตรวจจับและการทำลายเซลล์มะเร็งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • การให้ยาเคมีบำบัด: เป็นการใช้ยากำจัดและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่มีอยู่ทั่วร่างกาย 
  • การรักษาแบบเฉพาะเจาะจง: เป็นการรักษาโดยการใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง โดยไม่ส่งผลต่อเซลล์ปกติ ไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียง
  • การรักษาด้วยการผสมผสาน: โดยทั่วไปแล้ว การรักษามะเร็ง อาจใช้มากกว่าหนึ่งวิธีขึ้นไปเพื่อให้เกิดการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยขึ้นกับอาการ และระยะของโรค

มะเร็งปอด มักจะไม่แสดงอาการ แต่จะมีอาการที่สังเกตได้เมื่อโรคลุกลามแล้ว

มะเร็งปอด สามารถป้องกันได้อย่างไร ?

  • ลดหรือเลิกสูบบุหรี่ และเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้ที่สูบบุหรี่
  • เลี่ยงสถานที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง อยู่ในที่ ๆ มีอากาศบริสุทธิ์
  • ตรวจสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

ตรวจคัดกรองเมื่อมีความเสี่ยง รู้ก่อน รักษาได้ก่อน

แม้ว่าปัจจุบัน เราจะยังไม่มีวิธีการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดแบบง่าย หรือวิธีตรวจมะเร็งปอดด้วยตัวเองเหมือนการตรวจมะเร็งเต้านม แต่เราก็มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถช่วยตรวจคัดกรองได้ เช่น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ และการตรวจคัดกรองนี้เอง ที่ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยพบโรค และทำการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

 

บทความโดย : นพ.เฉลิมพลรัตนอุดมวรรณา, รพ.พิษณุเวช,ต.ค.66

ข้อมูล ณ ต.ค.66

บทความสุขภาพอื่น ๆ

บทความทางการแพทย์

โรคมือ เท้า ปาก โรคระบาดยอดฮิตช่วงหน้าฝน

12 มีนาคม 2567

โรคมือ เท้า ปาก คืออะไร รับโรคระบาดยอดฮิตช่วงหน้าฝน

“โรคมือ เท้า ปาก” โรคยอดฮิตในเด็กที่พบทุกปี โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มเข้าหน้าฝนเป็นช่วงที่มีอัตราการระบาดของโรคนี้สูง มีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคมือ เท้า ปากได้หรือไม่? บทความนี้จะมาตอบข้อสงสัยกัน!

ข่าวสุขภาพ

กรมควบคุมโรค ย้ำ “กินหมูดิบ เสี่ยงหูดับ” แนะประชาชน กินอาหารปรุงสุก ถูกหลักอนามัย

“หูดับ” หรือ “โรคไข้หูดับ” อาจเป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งในร้านหมูกระทะ หรือปิ้งย่างต่าง ๆ เวลามีใครสักคนใช้ตะเกียบคู่เดิม คีบหมูดิบไปปิ้ง และคีบมาใส่จานตัวเอง

ข่าวสุขภาพ

ไขข้อสงสัย ฝีดาษลิง สายพันธุ์ใหม่ ‘Clade 1B’ เหตุใดจึงถูกยกระดับเป็นภัยฉุกเฉินระหว่างประเทศ

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) สายพันธุ์ Clade 1B ทั่วโลกรวมถึงไทยที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้แถลงข่าวการพบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade 1B รายแรกในประเทศไทย เดินทางจากทวีปแอฟริกา ตรวจพบอาการสงสัยโรคฝีดาษลิง สายพันธุ์ Clade 1B ที่ทั่วโลกกำลังเฝ้าระวัง ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงได้ขยายไปทั่วโลก องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศแถบทวีปแอฟริกา