Header

mark

ไวรัส RSV คืออะไร อาการคล้ายไข้หวัด แต่อาจอันตรายมากกว่า

28 มีนาคม 2567

avatar เขียนโดย : นพ.ณัฏฐ์ชยนต์ รัตนตระกูลเดชา,กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ, รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

blog

ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยเดี๋ยวฝน เดี๋ยวร้อน ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทันทำให้เจ้าตัวน้อยไม่สบายได้ เพราะความชื้นในอากาศที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีขึ้น พบโรคติดต่อได้หลายโรค หนึ่งในนั้นคือ    “โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV” ที่มักพบในเด็ก โรคชนิดนี้มีอาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัด แต่อาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้มากกว่า โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ถึงขั้นปอดอักเสบและเสียชีวิตได้

นพ.ณัฏฐ์ชยนต์ รัตนตระกูลเดชา หรือคุณหมอหยก กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ ประจำโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ (PRINCIPAL HEALTHCARE)  ได้กล่าวว่าโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) มีสองสายพันธุ์หลัก คือ RSV-A และ RSV-B สามารถป่วยซ้ำได้หลายครั้งเมื่อร่างกายอ่อนแอ โรคนี้มักพบระบาดมากในช่วงฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว (ประมาณเดือนกรกฎาคม–มกราคม) พบมากในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี 

โรคติดเชื้อไวรัส RSV มีสองสายพันธุ์หลัก คือ RSV-A และ RSV-B

 

อาการของเด็กที่ติดเชื้อไวรัส RSV

เด็กที่ป่วยจะมีอาการเบื้องต้นคล้ายเป็นไข้หวัดธรรมดามีน้ำมูก ไข้ ไอ จาม ส่วนมากอาการมักไม่รุนแรง และหายป่วยได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่ในเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โรคปอดเรื้อรัง โรคหอบหืด โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทารกคลอดก่อนกำหนด หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ อาจมีอาการรุนแรงจนเป็นหลอดลมอักเสบ และปอดอักเสบได้ โดยมักมีอาการไข้สูง ไอมีเสมหะมาก ไอมากจนอาเจียน หายใจหอบเหนื่อยจนอกบุ๋ม หายใจแรง หายใจลำบาก หรือหายใจมีเสียงวี้ด ซึม ตัวเขียว ในบางรายอาจทำให้เกิดโรคปอดอักเสบรุนแรงจนถึงขั้นเกิดภาวะระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ ผู้ปกครองจึงควรหมั่นสังเกตอาการของลูกอย่างใกล้ชิด หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบพาลูกน้อยไปปรึกษากุมารแพทย์

โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV มักพบในเด็กช่วงหน้าฝน

 

สาเหตุของการติดเชื้อ RSV

โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV เป็นโรคติดต่อเกิดจากการสูดละอองฝอยที่ปนเปื้อนเชื้อผ่านการไอ จาม หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ ผ่านทางตา จมูก ปากหรือสัมผัสเชื้อโดยตรงจากการจับมือ สำหรับผู้ที่ได้รับเชื้อจะเริ่มแสดงอาการได้เร็วที่สุดหลังจากติดเชื้อ 2 วัน ช้าสุดประมาณ 8 วัน โดยส่วนใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ 4-6 วัน สามารถแพร่กระจายเชื้อได้นาน 3-8 วันหลังจากเริ่มมีอาการ ไปจนถึง 3-4 สัปดาห์โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

 

การรักษาและการป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV

นพ.ณัฏฐ์ชยนต์ รัตนตระกูลเดชา หรือคุณหมอหยก กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ ได้กล่าวถึงการรักษาและการป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV ไว้ว่า สำหรับการตรวจรักษาในผู้ป่วยจะเริ่มจากการซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้นหากพบว่ามีอาการบ่งชี้แพทย์จะทำการตรวจหาเชื้อไวรัส RSV จากสารคัดหลั่งในจมูก ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงก็ทราบผล

โดยในปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียารักษาจำเพาะแพทย์จะดำเนินการรักษาตามอาการของผู้ป่วย เช่น การให้ยาลดไข้ ให้ยาแก้ไอละลายเสมหะ ในเด็กบางรายที่มีเสมหะปริมาณมากและเหนียวข้น หรือมีอาการหอบเหนื่อยร่วมด้วย อาจต้องทำการพ่นยาขยายหลอดลมหรือน้ำเกลือผ่านทางออกซิเจนละอองฝอย รวมถึงทำหัตถการเคาะปอดและดูดเสมหะออก ให้สารน้ำทางน้ำเกลือในกรณีที่ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ลดลงหรือไอมีเสมหะมากจนอาเจียน หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนอาจจำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย และในรายที่มีอาการรุนแรงหรือเริ่มมีภาวะหายใจล้มเหลวอาจจะต้องพิจารณาให้ออกซิเจนแรงดันสูงหรือเครื่องช่วยหายใจ

หากมีอาการไม่รุนแรงเบื้องต้นผู้ปกครองสามารถรักษาอยู่ที่บ้านเองได้ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นใน 3-5 วันหรือพบมีอาการรุนแรงดังกล่าวข้างต้น แนะนำให้พาลูกน้อยมาปรึกษากุมารแพทย์ที่โรงพยาบาล สำหรับการป้องกันโรคนี้ทำได้โดยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง สอนให้ลูกน้อยรักความสะอาดล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในที่แออัดหรือในบริเวณสาธารณะ ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเมื่อมีน้ำมูกคั่ง ทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ



 

บทความโดย : นพ.ณัฏฐ์ชยนต์ รัตนตระกูลเดชา,กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ, รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ, ส.ค.66

 

ข้อมูล ณ ส.ค.66

 

บทความสุขภาพอื่น ๆ

บทความทางการแพทย์

ไข้หวัดใหญ่ ต่างจากไข้หวัดธรรมดายังไง

26 มีนาคม 2567

ไข้หวัดใหญ่ อาการเป็นยังไง ต่างจากไข้หวัดธรรมดายังไง อันตรายกว่าที่คิด

ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคประจำฤดูกาลที่มักกลับมาระบาดในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาวของทุกปี แม้ว่าไข้หวัดใหญ่ จะเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ก็คงจะดีกว่า ถ้าหากเราป้องกันการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่แรก

ข่าวสุขภาพ

กรมควบคุมโรค ย้ำ “กินหมูดิบ เสี่ยงหูดับ” แนะประชาชน กินอาหารปรุงสุก ถูกหลักอนามัย

“หูดับ” หรือ “โรคไข้หูดับ” อาจเป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งในร้านหมูกระทะ หรือปิ้งย่างต่าง ๆ เวลามีใครสักคนใช้ตะเกียบคู่เดิม คีบหมูดิบไปปิ้ง และคีบมาใส่จานตัวเอง

บทความทางการแพทย์

‘มะเร็งปอด’ เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นกลุ่มก้อนของเซลล์ที่ผิดปกติ

28 มีนาคม 2567

‘มะเร็งปอด’ ปัญหาใหญ่ อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษามะเร็ง

มะเร็งปอด เป็นอีกหนึ่งโรคที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรไทยทั้งชายและหญิง มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากการสูบบุหรี่ หรือการสูดดมควันบุหรี่มือสอง